เหรียญฉีดลายฉลุ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์

 เหรียญฉีดลายฉลุ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพา จ.สุรินทร์

 โดย... ช้าง วังหิน (นามปากกา ชายนำ ภาววิมล) ...

.....​ พระราชวุฒาจารย์ (ดูลย์ อตุโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดบูรพา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นับเป็นศิษย์อาวุโสรุ่นแรกสุดของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตมหาเถระ พระอาจารย์ใหญ่แห่งกองทัพธรรมทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ท่านเป็นสหธรรมิกกับพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา และหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู .....

             หลวงปู่ดูลย์ อตุโล เป็นพระสุปฏิปันโนที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ให้การสงเคราะห์แก่บุคคลทั่วไปโดยไม่มีการเลือกชั้นวรรณะ เป็นพระแท้มีคุณธรรมลึกล้ำ มีความรอบรู้ทั้งทางคันถธุระและวิปัสสนากรรมฐาน มุ่งเน้นการปฏิบัติมากกว่าการเทศนาสั่งสอน ให้ความสำคัญกับการพิจารณาจิตในจิตจนรู้แจ้งด้วยตนเอง ท่านสอนลูกศิษย์ว่า "หลักธรรมที่แท้จริงคือจิต จิตของเราทุกคนนั่นแหละคือหลักธรรมสูงสุดที่อยู่ในจิตใจเรา นอกจากนั้นแล้ว ไม่มีหลักธรรมใด ๆ เลย..." ขอให้เลิกละการคิดและการอธิบายเสียให้หมดสิ้น จิตในจิตก็จะเหลือแต่ความบริสุทธิ์ซึ่งมีประจำอยู่แล้วในทุกคน" ดังนั้น ท่านจึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ลูกศิษย์รุ่นแรก ๆ ของท่านที่มีชื่อเสียงเกียรติคุณโดดเด่นเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ ก็มี พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดสมพร จ.สกลนคร, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ.อุดรธานี, หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์, พระเทพสุทธาจารย์ (โชติ คุณสมปนฺโน) วัดวชิรลงกรณ์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

            รองศาสตราจารย์ ดร.ปฐม นิคมานนท์ ได้กล่าวถึงประวัติของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ในหนังสือ อตุโล ไม่มีใดเทียม ชุดรวมเหรียญและวัตถุมงคล หน้า ๗ - ๘ ดังนี้

            "หลวงปู่ดูลย์ อตุโล เกิดปีชวด วันที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๓๑ ที่บ้านปราสาท ต.เฉลียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ท่านกำเนิดในตระกูลเกษมสินธุ์ เป็นบุตรคนหัวปีในจำนวนพี่น้องทั้งหมด ๔ คน เมื่ออายุ ๒๒ ปี หลวงปู่ได้อุปสมบทที่วัดจุมพลสุทธาวาส อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยมีท่านพระครูวิมลศีลพรต (ทอง) เป็นพระอุปัชฌาย์ ในพรรษาที่ ๖ หลวงปู่ได้รอนแรมเดินทางด้วยเท้าไปจังหวัดอุบลราชธานี พำนักที่วัดสุทัศนารามเพื่อเรียนปริยัติธรรม สอบได้นักธรรมชั้นตรี แล้วเรียนบาลีไวยากรณ์ต่อถึงแปลมูลกัจจายน์ได้ หลวงปู่ฯ ได้รู้จักชอบพอกับหลวงปู่สิงห์ ขนฺติยาคโม ซึ่งต่อมาได้รู้จักกันดีในนามแม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพธรรม คือเป็นศิษย์เอกที่ได้รับมอบหมายจากหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ให้เป็นหัวหน้าทำการเผยแพร่ธรรมะในสายของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต หรือในสายของพระป่า จนแพร่หลายตราบเท่าทุกวันนี้
            ในปีที่ ๒ ที่หลวงปู่ได้พำนักอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานีนั้น หลวงปู่มั่น ได้พำนักอยู่ที่วัดบูรพา ในเมืองอุบลราชธานี หลวงปู่สิงห์ และ หลวงปู่ดูลย์ พระหนุ่มสองสหายผู้ใคร่ธรรมได้ไปกราบขอฟังธรรมจากพระอาจารย์ใหญ่ทุกวัน เกิดความอัศจรรย์และศรัทธาเป็นที่ยิ่ง จึงตัดสินใจเลิกละการเรียนด้านพระปริยัติธรรม แล้วออกเดินธุดงค์ตามป่าเขา ติดตามหลวงปู่มั่นไปในที่ต่าง ๆ อยู่นานปี หลวงปู่ดูลย์ เที่ยวธุดงค์หาความวิเวกตามป่าเขานานถึง ๑๙ ปี จึงได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการคณะสงฆ์ให้เดินทางไปประจำที่จังหวัดสุรินทร์เพื่อบูรณะวัดบูรพาราม จัดการศึกษาด้านปริยัติธรรมและเผบแพร่ข้อปฏิบัติทางกัมมัฏฐานไปด้วยกัน หลวงปู่จึงได้พำนักอยู่ประจำที่ ณ วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๗๗ จวบจนบั้นปลายชีวิตของท่าน นับตั้งแต่บัดนั้นมา แสงแห่งรัศมีธรรมของพระธรรม ทั้งทางปริยัติและทางปฏิบัติ ก็เริ่มฉายแสงรุ่งเรืองในจังหวัดสุรินทร์และภาคอีสานตอนล่างตลอดมา
            หลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระอริยเจ้าแห่งจังหวัดสุรินทร์ ได้ละเสียซึ่งสังขารเมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ สิริมายุได้ ๙๖ ปี กับ ๒๖ วัน อัฐิธาตุของท่านได้เก็บรักษาไว้ให้สาธุชนได้สักการะที่พิพิธภัณฑ์กัมมัฏฐาน ในวัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์"
           
            ในด้านพระเครื่องและวัตถุมงคลต่าง ๆ พระโพธินันทมุนี (มหาสมศักดิ์ ปณฺฑิโต) ได้ปรารฏไว้ในหนังสือ อตุโล ไม่มีใดเทียม ชุดรวมเหรียญและวัตถุ หน้า ๑ - ๑๕ มีใจความพอสรุปได้ว่า "หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ไม่เคยใส่ใจและไม่สนใจเกี่ยวกับวัตถุมงคลเลย เพราะท่านเน้นการปฏิบัติภาวนาเพื่อให้เห็นจิตเห็นใจของตนเอง มุ่งให้เกิดปัญญาตามแนวทางคำสอนของพระพุทธองค์ เหตุที่มีการสร้างเหรียญและวัตถุมงคลในนามของท่าน เนื่องจากเสียงเรียก ร้องของบรรดาศิษยานุศิษย์ทั้งหลายที่เดินทางไปกราบนมัสการท่าน กว่าที่ท่านจะยินยอมให้พระมหาสมศักดิ์ ปณฺฑิโต สร้างเหรียญรุ่นแรกของท่าน ต้องใช้เวลานานเป็นปี เมื่อท่านอนุญาตให้จัดสร้างเป็นครั้งแรก วัดและหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งลูกศิษย์ลูกหารของท่านส่วนหนึ่ง ได้ขออนุญาตจัดสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลในนามของท่ายอีกหลายรุ่น"

            เหรียญฉีดลายฉลุ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล พิมพ์ใหญ่ เป็นวัตถุมงคลอีกชุดหนึ่งที่ พลตำรวจโทแสวง หงส์นคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค ๒, พลตำรวจตรีธวัชชัย พิทักษ์พงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ๒, พระอาจารย์สมบูรณ์ ธมฺมจาโร วัดอินทรวิหาร (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธ์ทอง ต.พระครู อ.เมือง จ.บุรีรัมย์) และคณะฯ ได้ร่วมกันสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญ ต.พระครู อ.เมือง จ.บุรีรัมย์  นักนิยมพระเครื่องที่เริ่มสนใจและเล่นหาพระใหม่ในช่วงปี ๒๕๑๗ - ๒๕๒๐ เศษ ๆ คงพอจะทบทวนเหตุการณ์ในอดีตได้ว่า คณะผู้สร้างเหรียญหล่อลายฉลุหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ชุดนี้ เป็นผู้ริเริ่มและช่วยเหลือหลวงพ่อทิพย์ ธมฺมนิยโก อดีตเจ้าอาวาสโพธิ์ทอง หรือที่รู้จักกันในนามของ หลวงพ่อทิพย์ สารพัดนึก ในการบูรณปฏิสังขรณ์และสร้างสรรค์ถาวรวัตถุในวัดโพธิ์ทอง แต่ด้วยเหตุสุดวิสัยที่หลวงพ่อทิพย์ ธมฺมนิยโก ได้ด่วนละสังขารไปก่อนในปี ๒๕๑๙ ทางคณะฯ ก็มิได้ทอดทิ้งและสานต่อเจตนารมณ์ของหลวงพ่อทิพย์ ธมฺมนิยโก ให้แล้วเสร็จ ด้วยการจัดสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลในนามของหลวงพ่อผาง จิตฺตคุตฺโต วัดป่าอุดมคงคาคีรีเขตร์ และหลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพราม เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนบูรณะปฏิสังขรณ์และสร้างถาวรวัตถุในวัดโพธ์ทองดังที่ได้กล่าวมาแล้ว

             ลักษณะ เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นตามสมัยนิยมในยุคสมัยนั้น ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ครึ่งองค์ในกรอบพิมพ์แบบกลีบบัวลายกนก บนสุดของลายกนกปั้นเป็นบัวห้ากลีบสามดอก ด้านล่างจารึกชื่อ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ด้านหลังเป็นรูปโล่ตำรวจ ด้านบนโล่เป็นปีที่สร้างคือ ๒๕๒๑ ด้านล่างเป็นชื่อ วัดบูรพาราม สุรินทร์
            ขนาด กว้าง ๒.๓ เซนติเมตร สูง ๓.๒ เซนติเมตร ขอบล่างของเหรียญหนาประมาณ ๐.๓ เซนติเมตร
            เนื้อหา มีทั้งทองคำ เงิน และนวโลหะ
            มวลสารที่ใช้ในการสร้าง สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเนื้อหามวลสารชุดเดียวกันกับเหรียญฉีดลายฉลุสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหฺมรํสี) และเหรียญฉีดลายฉลุหลวงปู่ภู จนฺทเกสโร เหตุที่สันนิษฐานเช่นนี้เพราะด้วยเหตุที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มบุคคลที่เป็นแม่งานในการจัดสร้างวัตถุมงคลของวัดอินทรวิหารในปี ๒๕๒๑  ศิลปะและเนื้อหาของเหรียญฉีดทั้งสามเหรียญก็บ่งชี้ชัดว่ามาจากโรงงานเดียวกัน
            จำนวนการสร้าง ยังไม่สามารถหาพยานหลักฐานที่แน่ชัดได้ว่ามีจำนวนการสร้างเท่าไรกันแน่ เล็ก ศรีนคร ศิษย์ใกล้ชิดของพระอาจารย์สมบูรณ์ ธมฺมจาโร สันนิษฐานว่าเหรียญฉีดลายฉลุหลวงปู่ดูลย์ อตุโล น่าจะมีถึง ๑๐,๐๐๐ เหรียญ ส่วนเหรียญเล็กมีจำนวนน้อยกว่ากันมาก
            ปีที่สร้าง พ.ศ. ๒๕๒๑
            พิธีกรรม นำเข้าร่วมในพิธีสรรพสิทธิชัยไพรีพินาศมหามังคลาภิเษก ซึ่งประกอบด้วย วัตถุมงคลท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหฺมรํสี) และวัตถุมงคลอนุสรณ์ ๑๕๐ ปี หลวงปู่ภู จนฺทเกสโร โดยพระเกจิอาจารย์ ๑๐๙ รูป ที่มณฑลพิธีกลางแจ้งต่อหน้าพระพักตร์องค์หลวงพ่อโต วัดอินทรวิหาร ในระหว่างวันที่ ๒๑ - ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๑ ในพิธีนี้ นิตยสารพระเครื่องลานโพธิ์ ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๑๔๓ หน้า ๒๘  กล่าวถึงปรากฏการณ์มหัศจรรย์ ดังนี้
            สำหรับวันสุดท้ายของพิธีกรรมคือวันที่ ๓ ของวัน เป็นวันดับเทียนชัยพุทธาภิเษกโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร เป็นองค์ประกอบพิธีดับเทียนชัยนั้น ได้ปรากฏเหตุการณ์มหัศจรรย์ยิ่ง กล่าวคือ ทันทีที่เทียนชัยดับลง สายฝนได้โปรยปรายลงมา ฟ้าได้คะนองอย่างฉับพลัน อากาศครื้มปกคลุมไปทั่วบริเวณมณฑลพิธี เป็นนิมิตหมายว่าเทพเจ้าในเบื้องบนได้รับรู้พิธีกรรมในครั้งนี้ หลังจากนั้น อีกประมาณ ๒ เดือน จึงได้นำไปให้หลวงปู่ดูลย์ อตุโล อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวอีกครั้ง เป็นอันเสร็จพิธี
            พลานุภาพ เป็นวัตถุมงคลประเภทบุญฤทธิ์ จึงดีทางด้านเมตตามหานิยมและคุ้มครองให้ปลอดภัยแคล้วคลาดจากภยันตรารยต่าง ๆ นานา
            ค่านิยม เป็นเหรียญที่นิยมเล่นหากันในหมู่นักนิยมพระเครื่องสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตมหาเถระ สสนราคาเช่าหาเคยขึ้นไปที่สองพันกว่าบาท ปัจจุบัน (ปี ๒๕๔๓) พอหาได้ในราคาประมาณพันเศษ ๆ เหรียญที่มีสองโค้ด สนนราคาสูงกว่าเหรียญที่มีโค้ดเดียวเล็กน้อย

            เหรียญฉีดลายฉลุหลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จัดเป็นเหรียญฉีดลายฉลุที่น่าสนใจและน่าเก็บสะสมอีกเหรียญหนึ่ง จุดเด่นอยู่ที่ความงดงามของศิลปะร่วมมัยและพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคสมัยนั้น ลำพังแค่หลวงปู่ดูลย์ อตุโล รูปเดียวก็มากเกินพอแล้ว คณะผู้สร้างยังได้นำเข้าร่วมในพิธีมหาพุทธาภิเษกที่วัดอินทรวิหาร พระเกจิอาจารย์ทั้ง ๑๐๙ รูปที่มาร่วมพิธีฯ ล้วนเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิและวัยวุฒิ อาทิ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม, สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศ, หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร, หลวงพ่อทองอยู่ ยโส วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร, หลวงปู่คร่ำ ยโสธโร วัดวังหว้า ระยอง, หลวงปู่เหมือน อินฺทโชโต วัดกำแพง ชลบุรี, หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก วัดดอนยายหอม นครปฐม, หลวงพ่อแพ เขมํกโร วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี, ครูบาชัยวงศ์ฯ วัดฟ้าหลั่ง เชียงใหม่, หลวงพ่อทองสุข อินฺทสาโร วัดสะพานสูง นนทบุรี, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม อุดรธานี, หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดไตรวิเวก สุรินทร์ และองค์ประกอบที่นักนิยมพระใหม่ไม่ควรมองข้ามคือ ผลงานและความน่าเชื่อถือของคณะผู้สร้าง

             จุดอ่อนของเหรียญรุ่นนี้ น่าจะอยู่ที่โค้ดของเหรียญซึ่งมีทั้งโค้ดเดียวและสองโค้ด ทำให้นักนิยมพระเครื่องรุ่นใหม่ที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงเกิดความสับสนได้ เพราะนักนิยมพระเครื่องบางท่านพยายามเน้นย้ำและชี้ให้เห็นความแตกต่างและเพื่อประโยชน์ในการซื้อขายเฉพาะพระที่ตนมีอยู่ หากวางใจเป็นกลาง/ะยอมรับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและเป็นอยู่ในขณะนี้ ความแตกต่างระหว่างเหรียญที่มีโค้ดเดียวกับสองโค้ดเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าเหรียญที่ได้รับ ออกมาจากวัดโพธิ์ทองหรือวัดบูรพาราม ก็เท่านั้น เรื่องอื่น ๆ ไม่มีความแตกต่างกันเลย  ข้อมูลนี้ ได้มาจากผู้ที่อยู่อยู่ในเหตุการณ์ ท่านผู้นั้นระบุว่าคณะผู้จัดสร้างได้ตอกโค้ดตัว "พ" เพียงตัวเดียว ตัว "พ" นี้ หมายถึงวัดโพธิ์ทอง เมื่อหลวงปู่ดูลย์ อตุโล อธิษฐานจิตแผ่เมตตาเสร็จแล้ว ได้ถวายทางวัดบูรพารามไปส่วนหนึ่ง พระส่วนนี้ ได้มีการตอกโค้ดเพิ่มอีกหนึ่งตัว

              โดยภาพรวมแล้ว ผู้เขียนมีความเห็นว่าความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีนัยสำคัญที่ทำให้เหรียญใดเหรียญหนึ่งด้อยคุณค่าลงไป ถ้ามองโลกในแง่ดี เหรียญแท้แบบใดที่นักเล่นบางกลุ่มมองข้าม เป็นโอกาสดีของนักนิยมพระเครื่องรุ่นใหม่ที่จะเช่าหาได้ด้วยสนนราคาที่ไม่สูงมากนัก แต่ก่อนที่จะตัดสินใจควักกระเป๋าซื้อพระประเภทอื่นที่มีลักษณะและความเป็นมาคล้ายคลึงกัน ควรหาข้อมูลให้ชัดเจนก่อน เพราะความรู้แจ้งเห็นจริง นอกจากจะช่วยให้เราสามารถหาพระดี ๆ มาไว้สักการะบูชาโดยไม่ต้องใช้เงินทองมากเกินความจำเป็น แล้วยังทำให้เราแหวกวงล้อมขึ้นไปยืนอยู่ในระดับแนวหน้าของนักนิยมพระเครื่องยุคใหม่ได้อย่างสง่าผ่าเผย

(บทความเก่าจากนิตยสารพระเครื่องร่มโพธิ์ ปีที่ ๙ ฉบับที่ ๖ (๑๐๙) เมษายน - พฤษภาคม  หน้า ๙ - ๑๐)