แชร์

พระปิดตาหลวงพ่อสังข์ วัดเสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

อัพเดทล่าสุด: 20 ก.ย. 2025

52 ผู้เข้าชม

พระปิดตาหลวงพ่อสังข์ สีลํสวโร วัดเสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี^๑

^{โดย... ชายนำ ภาววิมล ...}

นนทบุรีเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มียอดพระเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน พระเวทวิทยาคมต่าง ๆ มากมาย จากอดีตถึงปัจจุบัน ชื่อเสียงกิตติคุณของยอดพระเกจิอาจารย์เมืองนนท์ ยังคงความเป็นหนึ่ง ไม่เป็นสองรองใคร สองฝั่งคลองอ้อมนนท์เป็นแหล่งชุมนุมยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั้งในอดีตและปัจจุบัน เริ่มจากหลวงปู่จันทร์ วัดโมลี ปรมาจารย์ผู้สร้างพระปิดตาแร่บางไผ่อันลือชื่อ, หลวงปู่เกิด วัดบางเดื่อ ผู้สร้างพระปิดตาบางเดื่อ, พระราชปรีชามุนี หรือ หลวงปู่เผือก ติสฺสถิโร วัดโมลี ศิษย์เอกผู้สืบทอดพุทธาคมจากหลวงพ่อเงิน พุทฺธโชติ วัดบางคลาน จ.พิจิตร, หลวงปู่เหรียญ ถาวโร วัดบางระโหง เจ้าตำรับไก่ใบลานที่มีพลานุภาพโดดเด่นทางด้านเมตตา ค้าขาย ฯลฯ นอกจากนี้แล้ว ยังมีพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์อันศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่คู่กับวัดเสาธงหินมาตั้งแต่สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา

เมื่อกล่าวถึงวัดเสาธงหิน ชาวบ้านในย่านอำเภอบางใหญ่ บางบัวทอง และบางกรวย มักจะนึกถึงหลวงพ่อโต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์กันหลายครั้งด้วยกัน และเหรียญหลวงพ่อโตก็เคยช่วยชีวิตผู้ใหญ่บ้านท่านหนึ่งในเขตอำเภอบางใหญ่ให้พ้นจากอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะรอดมาได้อย่างไร ดูจากสภาพรถแล้ว ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างคิดว่าคนในรถต้องตายแน่ ๆ เท็จจริงเป็นอย่างไร ถ้าท่านผู้อ่านมีโอกาสผ่านมาทางบางใหญ่ ก็ลองแวะเข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อโตและสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ ได้จากท่านเจ้าอาวาสหรือหลวงพี่ตี๋ ก็จะได้รับทราบข้อมูลที่กระจ่างและชัดเจนยิ่งขึ้น

นอกจากหลวงพ่อโต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดเสาธงหินแล้ว ท่านเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันคือ พระครูนนทปัญญาภรณ์ (มหาสังข์ แก่นเรือง)^๒ ยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เคร่งครัดด้านการปฏิบัติ เชี่ยวชาญด้านวิปัสสนากรรมฐาน ที่สำคัญคือเป็นผู้สืบทอดพุทธาคมโดยตรงของพระราชปรีชามุนี (เผือก ติสฺสถิโร) วัดโมลี ท่านพระครูนนทปัญญาภรณ์ เดิมชื่อสังข์ แก่นเรือง เป็นบุตรนายศรี นางเนียม แก่นเรือง ในวัยเด็กต้องช่วยพ่อแม่ทำมาหากินด้วยการปีนต้นตาลเพื่อนำมาทำน้ำตาล การปีนต้นตาลก็มีโอกาสที่จะพลาดพลั้งเสมอ เด็กชายสังข์ แก่นเรือง ได้พลัดตกต้นตาลถึง ๒ ครั้ง และขาก็หักทั้งสองครั้ง โยมพ่อของท่านได้พาไปหาพระหมอรักษา ครั้งสุดท้ายเมื่อหายดีแล้ว ก็พาไปมอบให้หลวงปู่เผือก ติสฺสถิโร ดูแลต่อไป

หลวงปู่เผือก ติสฺสถิโร เห็นหน่วยก้านของเด็กชายสังข์ แก่นเรือง ว่าน่าจะเป็นผู้ที่สร้างประโยชน์ให้กับพระบวรพุทธศาสนาต่อไปในอนาคต จึงได้ให้เด็กชายสังข์ แก่นเรือง บรรพชาเป็นสามเณร และส่งเสริมให้ศึกษาพระธรรมจนกระทั่งสอบไลาได้เปรียญ ๓ ประโยคตั้งแต่เป็นสามเณร เมื่ออายุครบบวชแล้ว ได้อุปสมบท ณ วัดโมลี อยู่ปรนนิบัติรับใช้พระอุปัชฌาย์และศึกษาพระเวทวิทยาคมต่าง ๆ จากหลวงปู่เผือก ติสฺสถิโร เรื่อยมาจนถึงปี ๒๕๐๐ จึงได้รับมอบหมายจากเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรีให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัเเสาธงหิน เมื่อได้รับมอบหมายหน้าที่อันสำคัญแล้ว ท่านก็มิได้สร้างความผิดหวังให้กับเจ้าคณะจังหวัดและพระราชปรีชามุนีเลยแม้แต่น้อย วัดเสาธงหินได้พัฒนาและเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาอย่างรวดเร็วอย่างที่เห็นกันในทุกวันนี้

ในการพัฒนาวัดเสาธงหิน พระมหาสังข์ แก่นเรือง ได้นำความรู้ต่าง ๆ ที่ศึกษาเล่าเรียนจากหลวงปู่เผือก มาใช้ในการช่วยเหลือเกื้อกูลพุทธศาสนิกชนมาโดยตลอด จนเป็นที่ยอมรับนับถือกันอย่างกว้างขวางในย่านบางใหญ่และละแวกใกล้เคียง นอกจากนี้แล้ว ท่านยังได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นมาอีกมากมายหลายรุ่น แต่ละรุ่นล้วนมีพลานุภาพและประสบการณ์มากมาย วัตถุมงคลที่สร้างขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นพระเครื่องในรูปแบบของหลวงพ่อโตที่ออกมาในนามของท่าน หรือรุ่นอื่น ๆ มีเพียงสองรุ่นเท่านั้น สองรุ่นที่ว่านั้น ก็คือ

๑) พระพิมพ์สมเด็จรุ่นที่ระลึกงานฉลองสมณศักดิ์พระครูนนทปัญญาภรณ์ ปี ๒๕๑๓ หรือที่ชาวบ้านทั่ว ๆ ไป เรียกขานกันว่า พระสมเด็จรุ่นไหแตก พระเครื่องที่สร้างขึ้นครั้งนี้ มีทั้งพระพิมพ์สมเด็จ พระปิดตา และพระสังกัจจายน์
๒) เหรียญพระแก้วมรกต รุ่นแก้วสารพัดนึก และเหรียญหลวงพ่อโต รุ่นแรก ปี ๒๕๑๘

พระปิดตาหลวงพ่อสังข์ สีลํสวโร เป็นพระเครื่องอีกพิมพ์หนึ่งที่สร้างขึ้นในปี ๒๕๑๓ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์ของท่าน เนื่องจากเป็นการสร้างในโอกาสพิเศษ การสร้างพระเครื่องชุดนี้ จึงมีความพิถีพิถัน ทำกันเองทุกขั้นตอนภายในวัดเสาธงหิน โดยได้มอบหมายให้หลวงพ่อผันเป็นช่างแกะแม่พิมพ์ และหลวงพ่ออั้น อดีตเจ้าอาวาสวัดบางสาม อ.สองพี่น้อง จน.สุพรรณบุรี ซึ่งย้ายมาจำพรรษาเป็นพระลูกวัดที่วัดเสาธงหิน เป็นผู้ผสมเนื้อผงและควบคุมการกดแม่พิมพ์ปั๊มพระ

ลักษณะ เป็นพระปิดตาในกรอบพิมพ์แบบพระสมเด็จ องค์พระชะลูด นั่งสมาธิเพชรบนฐานสองชั้น กึ่งกลางฐานทั้งสองชั้น เป็นแถบสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้างประมาณ ๐.๔ ซม. กดลึกลงไปในฐาน ลักษณะพระพาหาคล้ายตัว w ด้านหลัง เป็นรูปยันต์นะปัดตลอด หรือ ยันต์นะมหาเศรษฐี แล้วแต่จะเรียกัน ด้านบนตัวนะเป็นรูปพัดใบตาล ใต้ยันต์เป็นอักษร ๓ แถว มีข้อความว่า ที่ระลึกฉลองสมณศักดิ์, พระครูนนทปัญญาภรณ์. วัดเสาธงหิน พ.ศ. ๒๕๑๓. บางองค์จะมีเม็ดข้าวสารดำฝังอยู่ บางองค์หลุดหายไป บางองค์ไม่ได้บรรจะเม็ดข้าวสารดำ
ขนาด กว้างประมาณ ๒.๕ ซม. สูงประมาณ ๓.๘ ซม. หนาประมาณ ๐.๓ - ๐.๔ ซม.

เนื้อหา ผงน้ำมัน
มวลสารที่ใช้ในการสร้าง
๑) ผงพระสมเด็จวัดระฆังชำรุด ได้รับจากพระราชธรรมภาณี (ละมูล สุตาคโม) วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
๒) ผงอิทธิเจพระราชปรีชามุนี (เผือก ติสฺสถิโร) วัดโมลี
๓) ผงเกสร ๑๐๘
๔) ผงว่าน ๑๐๘
๕) ข้าวสารดำ
จำนวนการสร้าง ประมาณ ๕,๐๐๐ องค์
พิธีกรรม จัดพิธีพุทธาภิเษกที่อุโบสถหลังเก่าซึ่งเป็นแบบมหาอุดคือมีประตูเข้าออกทางเดียว โดยมีพระเกจิอาจารย์ ๙ รูปเข้าร่วมอธิษฐานจิตบริกรรมภาวนา^๒ ดังรายนามต่อไปนี้
๑) หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร
๒) หลวงพ่อคง สุวณฺโณ วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี
๓) หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรี จ.สิงห์บุรี
๔) หลวงพ่อสำราญ วัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี๒
๕) หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง จ.นนทบุรี
๖) หลวงพ่อสุด สิริธโร วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร
๗) หลวงพ่อแพ เขมํกโร วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
๘) หลวงพ่อปลื้ม จิตฺตสญฺญโต วัดสวนหงษ์ จ.สุพรรณบุรี
๙) องค์สุดท้าย หลวงพี่ตี๋ พระหลานชายของหลวงพ่อสังข์ บอกว่าน่าจะเป็นหลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณฺโณ วัดดอนยายหอม นครปฐม (แต่อาจจำผิด จึงไม่ขอยืนยัน)
เมื่อพุทธาภิเษกเสร็จแล้ว หลวงพ่อสังข์ แก่นเรือง ได้อธิษฐานจิตบริกรรมภาวนาเดี่ยวเีกครั้งหนึ่ง
พลานุภาพ เด่นทางเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดนิรันตราย
ค่านิยม เป็นพระที่นิยมในท้องถิ่น สนนราคาเล่นหากันที่หลักร้อยกลาง ๆ ขึ้นไป (ปี ๒๕๓๙)

พระปิดตาหลวงพ่อสังข์ สีลํสวโร รุ่นนี้ ได้นำมาแจกเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์ของท่านในปี ๒๕๑๓ ส่วนที่เหลือนำไปบรรจุไหและเก็บรักษาไว้ที่อุโบสถหลังเก่า คราวใดที่มีพิธีพุทธาภิเษกก็จะโยงสายสิญจ์มาที่ไหนบรรจุพระเครื่องรุ่นนี้เสมอ ต่อมาในปี ๒๕๓๕ ทางวัดเสาธงหินได้รื้ออุโบสถหลังพบ ไหบรรจุพระเครื่องเกิดแตกระหว่างขนย้าย จึงได้ตั้งสมญานามพระเครื่องรุ่นนี้ว่า "พระสมเด็จรุ่นไหแตก" ดังนั้น วัดเสาธงหิน จึงได้นำพระเครื่องชุดนี้ออกให้บูชาอีกครั้งหนึ่ง

พระปิดตาหลวงพ่อสังข์ สีลํสวโร รุ่นนี้ มีข้อสังเกตประการหนึ่งคือ ด้านหลังเป็นนะมหาเศรษฐี ซึ่งเป็นยันต์ตัวเดียวกับพระปิดตารุ่นปลดหนี้ของหลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ วัดประดู่ฉิมพลี ในอดีตไม่ค่อยมีพระเกจิอาจารย์รูปใดนำยันต์นี้มาใช้มากนัก เพราะยันต์นี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ยันต์นะปัดตลอด" ผู้ที่จะใช้ยันต์นี้ได้ ต้องสำเร็จวิชานะปัดตลอด จึงจะทำให้ขลังได้ การที่หลวงพ่อสังข์ สีลํสวโร นำยันต์นี้มาใช้ ต้องมีอะไรเป็นพิเศษแน่นอน ส่วนท่านจะสำเร็จวิชานะปัดตลอดหรือไม่นั้น พระนักปฏิบัติอย่างหลวงพ่อสังข์ แก่นเรือง คงจะไม่เอ่ยปากกับใครว่าท่านสำเร็จวิชานี้หรือไม่ คนเชื่อก็ดีไป คนไม่เชื่อก็จะติฉินนินทาได้ แต่ที่แน่ ๆ หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ สำเร็จวิชานะปัดตลอด เมื่อท่านมาร่วมอธิษฐานจิตบริกรรมภาวนาในวัตถุมงคลที่ประทับด้วยยันต์ที่ท่านเชี่ยวชาญที่สุดแล้ว เรื่องพลานุภาพจะไม่ให้เข้มขลังแบบสุด ๆ ได้อย่างไร หากไม่สามารถหาพระปิดตาหลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ วัดประดู่ฉิมพลี มาห้อยคอได้ พระปิดตาหลวงพ่อสังข์ สีลํสวโร วัดเสาธงหิน ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

ขอกราบขอบพระคุณหลวงพี่ตี๋และหลวงพี่เปี๊ยก วัดเสาธงหิน ที่ให้รายละเอียดต่าง ๆ แก่ผู้เขียนเป็นอย่างดี

๑ ปรับปรุงแก้ไขจากบทความเก่าในนิตยสารศูนย์พระเครื่อง ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๑๖๕ (๑๐ มกราคม ๒๕๓๙) หน้า ๗๑ - ๗๒ และ ๖๗

๒. รายชื่อพระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมพิธีฯ มีความแตกต่างจากข้อมูลที่ระบุในนิตยสารพระเครื่อง ปีที่ ๗ ฉบับที่ ๑๗๐ (๒๕ มีนาคม ๒๕๓๙) หน้า ๕๖ บทความเรื่อง "พระพิมพ์สมเด็จวัดเสาธงหิน นนทบุรี" ดังนี้ ๑) หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร ๒) หลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณฺโณ วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม ๓) หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง จ.นนทบุรี ๔) หลวงพ่อแพ เขมํกโร วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ๕) หลวงพ่อน้อย อินฺทสโร วัดธรรมศาลา จ.นครปฐม ๖) หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม จ.นครปฐม ๗) หลวงพ่อชื่น ตุฏธิโก วัดตำหนักเหนือ จ.นนทบุรี ๘) หลวงพ่อเทียม สิริปญฺโญ วัดกษัตราธิราช จ.พระนครศรีอยุธยา ๙) ปรมาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิ์ราชาวาส กรุงเทพมหานคร. อันเป็นข้อมูลที่มีการตรวจสอบเพิ่มเติม จึงมีความเป็นไปได้มากกว่าข้อมูลเดิมที่บันทึกจากคำบอกเล่า

Tags :

พระปิดตา

พระปิดตาหลวงพ่อสังข์ สีลํสวโร รุ่นฉลองสมณศักดิ์

พระสมเด็จวัดเสาธงหิน รุ่นไหแตก

วัดเสาธงหิน บางหใญ่

อุทยานพระเครื่อง โดย... ชายนำ ภาววิมล ...

นิตยสารศูนย์พระเครื่อง