พระปิดตามหาอุตม์ยันต์ยุ่งหลวงพ่อผาย เขมพตฺโต

พระปิดตามหาอุตม์ยันต์ยุ่งหลวงพ่อผาย เขมพตฺโต วัดอรัญญิกการาม จ.อุตรดิตถ์^๑

^{โดย... ชายนำ ภาววิมล ..}

             ^{มองย้อนไปในอดีตเมื่อ ๒๐ กว่าปีที่ผ่านมา นักนิยมพระเครื่องรุ่นเก๋ากึกส์หลาย ๆ ท่านคงพอนึกภาพออกว่า "ในสมัยนั้น เป็นยุคที่พระเครื่องเฟื่องฟูมาก จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นยุคทองของพระใหม่" พระเกจิอาจารย์ต่างๆ ที่ไม่เคยสร้างพระเครื่อง ก็เริ่มสร้างกันอย่างเอิกเกริก มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์กันตามหน้าหนังสือพระเครื่องกันอย่างเปิดเผย พระเครื่องที่ออกมาในช่วงระหว่างปี ๒๕๑๗ - ๒๕๒๐ บางรุ่นบางพิมพ์ได้รับความนิยมและนิยมเล่นหากันเป็นสากลในยุคปัจจุบัน อาทิ พระเครื่องหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง, พระเครื่องหลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร, หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง. แต่ก็มีอีกเป็นจำนวนมากที่เงียบหายไปกับกาลเวลา จะเป็นด้วยสาเหตุใดคงไม่ต้องสาธยายอะไรมากมายนัก เพราะนักนิยมพระเครื่องส่วนใหญ่ย่อมรู้ดีว่าอะไรเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้พระเครื่องแต่ละรุ่นแต่ละพิมพ์ได้รับความนิยมและเล่นหากันอย่างกว้างขวาง}

            ^{ส่วนหนึ่งของพระเครื่องที่เงียบหายไปกับกาลเวลาเป็นของดีมีศิลปะและพุทธคุณโดดเด่น มาถึงทุกวันนี้ พระเครื่องต่าง ๆ เหล่านั้นมีอายุการสร้างนานพอสมควร แม้ว่าจะไม่เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างแต่ก็มีนักนิยมพระเครื่องหลายท่านเริ่มให้ความสำคัญกับพระเครื่องในกลุ่มนี้และตามเก็บกันอย่างเงียบ ๆ ของบางอย่างอาจตกค้างอยู่ตามศูนย์พระเครื่องเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่ายี่สิบปีไป ได้ค่อย ๆ หมดไปเรื่อย ๆ ผลที่ตามมาก็คือ สนนราคาเช่าหาได้ปรับตัวสูงขึ้นหลายเท่าตัว  ว่ากันตามจริงแล้ว พระเครื่องที่มีอายุการสร้างประมาณ ๒๐ - ๓๐ ปี เป็นพระเครื่องที่น่าสนใจไม่น้อย เป็นช่องว่างระหว่างพระเก่าที่มีสนนราคาเช่าหาสูงมากจนจับกันไม่ค่อยจะลง กับพระใหม่ที่ไม่มีจุดสิ้นสุด ราคาตั้งจากวัดบางครั้งก็แพงสุด ๆ เช่นกัน ช่องว่างนี้ จึงเป็นทางเลือกที่จะขึ้นมาทดแทนพระเก่าที่นับวันจะกลายเป็นตำนานที่เล่าขานสู่กันฟังโดยไม่มีโอกาสได้พบเห็นของจริง เป็นตำนานที่นักนิยมพระเครื่องยุคใหม่ต้องฮัมเพลง ...ได้แต่ฝัน..ฝัน...  เจาะลึกลงไปที่พระปิดตาที่สร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี ๒๕๑๗ - ๒๕๑๙ พระปิดตามหาอุตม์ยันต์ยุ่งเป็นพระปิดตาอีกตระกูลหนึ่งที่นิยมสร้างกันอย่างแพร่หลายในช่วงสองสามปีที่พระใหม่ ๆ เดินพาเหรดเข้าสู่วงการพระเครื่องเป็นว่าเล่น ตามเนื้อผ้าแล้ว พระปิดตามหาอุตม์ยันต์ยุ่งในยุคนี้เป็นพระปิดตาที่มีศิลปะและเนื้อหามวลสารไม่ได้ด้อยไปกว่าพระปิดตายุคเก่า ๆ เลย จะแตกต่างกันก็เพียงค่านิยมและอายุในการสร้างเท่านั้น ดังนั้น การนำเสนอเรื่องพระปิดตาในฉบับนี้ ผู้เขียนขอนำท่านไปรู้จักกับพระปิดตามหาอุตม์ยันต์ยุ่งของพระเกจิอาจารย์ทางภาคเหนืออีกรูปหนึ่ง ที่เป็นของดีราคาถูกซึ่งนักนิยมพระเครื่องรุ่นใหม่ ๆ ยังไม่ค่อยรู้จักมักคุ้นกันมากนัก}

             ^{หลวงพ่อผาย เขมพตฺโต วัดอรัญญิการาม บ้านหนองคำอ้อย ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เป็นพระเกจิอาจารย์ทางภาคเหนืออีกรูปหนึ่งที่สร้างพระเครื่องขึ้นมารุ่นหนึ่งในปี ๒๕๑๘ เท่าที่ทราบมี เหรียญและพระปิดตามหาอุตม์ยันต์ยุ่ง จากนั้น ก็ได้เงียบหายไปจากส่วนกลางโดยไม่มีข่าวคราวว่าท่านได้สร้างสรรค์ผลงานอะไรให้นักนิยมพระเครื่องได้เล่นหาสะสมกันอีกหรือไม่ ตามประวัติที่นำมาเผยแพร่กันในหนังสือพระเครื่องในยุคสมัยนั้น ระบุว่าหลวงพ่อผาย เขมพตฺโต เกิดที่บ้านไผ่ขอคอน ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ในปี ๒๔๗๒ เป็นบุตรคนที่สองของนายเผื่อนและนางเขียว  เมื่ออายุ ๙ ขวบ ได้หลวงทางและนั่งรถไปจังหวัดสุโขทัย พอลงจากรถไม่รู้จะไปไหนเลยเดินเข้าไปในวัดร้าง พบพระภิกษุรูปหนึ่งทราบนามในภายหลังว่า พระอาจารย์ตระกรุด กำลังนั่งวิปัสสนากรรมฐานอยู่ ด้วยความหิว จึงได้ขอข้าวกับพระอาจารย์ตระกรุดกินเพื่อขอประทังชีวิต เมื่อพระอาจารย์ตระกรุดทราบเรื่องราวต่าง ๆ แล้วจึงรับท่านไว้ในอุปการะ พระอาจารย์ตระกรุดนั่งวิปัสสนากรรมฐานอยู่ที่วัดร้างแห่งนี้เป็นเวลา ๓ วัน จากนั้นได้เดินธุดงค์ไปเรื่อย ๆ จนถึงสุพรรณบุรี การธุดงค์ครั้งนี้ใช้เวลานาน ๗ ปี จึงได้ย้อนกลับมาที่สุโขทัย ตลอดเวลาการเดินทาง พระอาจารย์ตระกรุดได้ถ่ายทอดพระเวทย์วิทยาคมต่าง ๆ ให้กับหลวงพ่อผาย เขมพตฺโต โดยไม่ปิดบัง}

            ^{วันหนึ่ง ในขณะที่พระอาจารย์ตระกรุดจำวัดอยู่ได้นิมิตเห็นพระร่วงมาเข้าฝันว่า ถ้าอยากได้ขุมทรัพย์ก็ให้ไปเอาที่เจดีย์แห่งหนึ่ง อยู่ใกล้กอไผ่ เมื่อตื่นจากจำวัดจึงได้เล่าให้หลวงพ่อผาย เขมพตฺโต ฟังและให้ไปยืมจอบเสียมจากชาวบ้าน จากนั้นจึงได้เดินทางไปยังสถานที่ที่ท่านฝันถึง พอไปถึง สิ่งแรกที่พระอาจารยตระกรุด กระทำก็คือนั่งเข้าฌานเพื่อตรวจสอบดูว่านิมิตที่ท่านพบเห็นในฝัน มีจริงหรือไม่ สักครู่หนึ่งก็รู้ได้ด้วยญาณว่าเจดีย์ที่พระร่วงมาเข้าฝันนั้นมีจริง พระอาจารย์ตระกรุดและหลวงพ่อผาย เขมพตฺโต จึงได้ลงมือขุดเป็นเวลานาน ๗ วัน จึงได้พบขุมทรัพย์ พระอาจารย์ตระกรุดได้ลอกอักขระขอมมาเพียงอย่างเดียวโดยมิได้แตะต้องทรัพย์สมบัติใด ๆ เลย เมื่อลอกอักขระเสร็จแล้ว ท่านได้กลบฝังทุกสิ่งทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อยและพักแรม ณ อยู่ที่นั่นนานถึง ๔ เดือน จึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์ไปยังประเทศเขมร  ในการธุดงค์ครั้งนี้ พระอาจารย์ตะกรุดได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของพระอาวุโสรูปหนึ่ง และได้นำอักขระขอมที่ลอกมาจากศิลาแลงให้พระอาจารย์ฯ ดู พระอาจารย์ฯ จึงอ่านให้ฟัง แล้วบอกว่าเป็นคาถาของพระร่วงและเป็นพระคาถาทางด้านเมตตามหานิยม ท่านจึงขอให้พระอาจารย์ช่วยสอนจนสำเร็จพระคาถาของพระร่วง หลัง จากนั้นไม่นาน พระอาจารย์อาวุโสรูปนั้นได้มรณภาพไป}

             ^{พระอาจารย์ตระกรุดได้อาศัยอยู่ที่ถ้ำแห่งนี้ กระทั่งหลวงพ่อผาย เขมพตฺโต มีอายุได้ ๒๕ ปี มีพวกเขมร ๔ คนและทหาร ๑ คน เข้ามาขอพักอาศัยในถ้ำ พระอาจารย์ตระกรุดพยายามสอนไม่ให้เขมรทั้ง ๕ กระทำชั่วอีกต่อไป แต่เขมรทั้งห้าไม่เชื่อฟัง ทั้งยังท้าทายให้มาลองดีกับพวกตนเพราะพวกเขาฆ่าคนมามากแล้ว และก่อนที่พวกเขมรทั้งห้าจะจากไป ได้จัดการตัดท่อนไม้และกิ่งไม้มาปิดปากถ้ำ จุดไฟเผาเพื่อฆ่าปิดปากพระอาจารย์ตระกรุดและหลวงพ่อผาย เขมพตฺโต ที่ล่วงรู้ความลับของพวกตน พระอาจารย์ตระกรุดทราบล่วงหน้า จึงได้ภาวนาพระคาถาของพระร่วงเพื่อให้พ้นจากภยันตรายครั้งนี้  เพื่อขจัดปัญหาต่าง ๆ พระอาจารย์ตระกรุดดำริที่จะปราบพวกพวกโจรเขมรทั้งห้า วิธีการที่ใช้คือให้หลวงพ่อผาย เขมพตฺโต ไปเก็บไม้ไผ่แห้งมาผ่าเป็นซีกตอก ๕ ซีก นั่งภาวนาพระคาถาพระร่วงแล้วหักตอกให้ขาดจากกัน เรียกโจรเขมรสี่คนให้กลับมาตายที่หน้าถ้ำในลักษณะที่ไส้ขาดเป็นท่อน ๆ เหลือไว้แค่คนที่เป็นทหารเพียงคนเดียวที่ท่านเรียกมาอบรมสั่งสอนไม่ให้กระทำชั่วแล้วปล่อยกลับไป}

             ^{ต่อมาพระอาจารย์ตระกรุดได้มรณภาพลงในขณะที่หลวงพ่อผาย เขมพตฺโต อายุได้ ๓๐ ปี หลวงพ่อผาย เขมพตฺโต จึงได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเดิม ๔ ปีต่อมาเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก จึงได้ตัดสินใจอุปสมบทที่วัดคลองเมฆ ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก อยู่ได้ ๑ พรรษา ก็มีความคิดริเริ่มที่จะออกไปบูรณะวัดใดวัดหนึ่งให้ดีขึ้น ประจวบเหมาะกับ พ.ต.สงวน เชาว์ชนะปรีชา, จ่าประดิษฐ์ และจ่าผดุง พร้อมทั้งญาติ ๆ ได้มานิมนต์ท่านให้ไปจำพรรษาที่วัดอรัญญิกการาม ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เมื่อมาอยู่แล้ว หลวงพ่อผาย เขมพตฺโต ได้ทำการรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับชาวบ้านเป็นประจำ ปัจจัยที่ได้รับ ก็นำมาทำนุบำรุงวัดอรัญญิกการามเรื่อยมา}

            ^{พระปิดตามหาอุตม์ยันต์ยุ่ง หลวงพ่อผาย เขมพตฺโต เป็นวัตถุมงคลรุ่นแรกที่หลวงพ่อผาย เขมพตฺโต สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ๒๕๑๘ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์ สร้างกำแพงวัดและศาลาการเปรียญที่ค้างอยู่ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี}

               ^{ลักษณะ เป็นพระปิดตามหาอุตม์ยันต์ยุ่งที่สร้างล้อแบบพระปิดตาวัดหนัง องค์พระสูงชะลูด ด้านหน้า เป็นแขน ๓ คู่ คู่แรกยกขึ้นปิดพระพักตร์ (หน้า) คู่ที่สองวางซ้อนกันแบบนั่งสมาธิ คู่ที่สามล้วงลงไปปิดทวาร เข่าทั้งสองเป็นตัว "พะคว่ำ" จากเศียรลงมาถึงด้านหลังองค์พระเป็นรูปยันต์ดังนี้}

               ^{ขนาด กว้าง ๑.๔ ซม. สูง ๒.๑ ซม. หนา ๐.๘ ซม.
               เนื้อหา/จำนวนการสร้าง
                  ๑) ทองคำ ๙ องค์
                  ๒) เงิน ๑๙๙ องค์
                  ๓) นวโลหะ ๔๙๙ องค์
               มวลสารที่ใช้ในการสร้าง จำนวนพระเก่าจำนวน ๔๕ กิโลกรัม ผสมกับเงินยวงหนัก ๔๐ บาท
               พิธีกรรม อธิษฐานจิตบริกรรมภาวนาเดี่ยว โดยหลวงพ่อผาย เขมพตฺโต ตั้งแต่วันที่ ๑ - ๙ เมษายน ๒๕๑๘ รวมเวลา ๙ วัน
               พลานุภาพ ดีทางด้านป้องกันตัว แคล้วคลาดนิรันตราย เมตตามหานิยม และโชคลาภ นอกจากนั้นยังใช้ทำน้ำมนต์รักษาโรคได้
               ค่านิยม เป็นพระปิดตาประเภทของดีราคาถูก นิยมเล่นหาเฉพาะกลุ่ม สนนราคาเช่าหาไม่สูงมากนัก ซื้อหาได้ที่หลักร้อยปลาย ๆ ถึงหลักพันต้น ๆ (ปี ๒๕๓๙)}

            ^{การเปิดตัวของหลวงพ่อผาย เขมพตฺโต ได้ใช้คำว่า ศิษย์พระร่วง เป็นจุดขายในการสร้างพระปิดตามหาอุตม์ยันต์ยุ่งและเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรกเพื่อหาปัจจัยดังวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาแล้วในข้างต้น การเปิดตัวไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรเพราะมีการสร้างพระเครื่องเพียงครั้งเดียวแล้วก็เงียบหายไปจากแวดวงนักนิยมพระเครื่องในส่วนกลาง สาเหตุที่ไม่ประสบความสำเร็จ ตามความเห็นของผู้เขียนก็คือ การนำเสนอประวัติไม่มีพลังเพียงพอที่จะส่งให้หลวงพ่อผาย เขมพตฺโต เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เนื้อหาสาระส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่พระอาจารย์ตระกรุดเป็นหลัก โดยไม่ชี้ให้เห็นว่าหลวงพ่อผาย เขมพตฺโต มีปฏิปาทจริยาวัตรที่น่าเลื่อมใสหรือไม่ มีความเชี่ยวชาญในการเจริญวิปัสสนากรรมฐานและรอบรู้ในพระเวทย์วิทยาคมที่ได้รับการถ่ายทอดจากพระอาจารย์มากน้อยเพียงใด ทำให้ภาพลักษณ์ของท่านไม่โดดเด่นเท่าที่ควร}

             ^{ในบางช่วง เช่นตอนที่พระอาจารย์ตระกรุด อาจารย์ของหลวงพ่อผาย เขมพตฺโต ปราบโจรเขมรทั้งสี่ที่เล่นกันถึงตาย เป็นภาพสะท้อนกลับที่ไม่ดีนัก สามารถมองได้สองแง่มุม แล้วแต่ใครจะมองไปในทิศทางใด แม้ว่าจะไม่ใช่การกระทำของหลวงพ่อผาย เขมพตฺโต แต่ท่านก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย การเน้นย้ำเพียงเพื่อสร้างจุดขายในลักษณะนี้โดยละเว้นที่จะนำเสนอปฏิปทา ศีลาจาริยาวัตรของพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สาธุชนทั่วไปมองว่าหลวงพ่อผาย เขมพตฺโต เป็นพวกไสยดำได้ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องยากที่จะชูให้เกิดการยอมรับได้ ตัวแปรอีกประการหนึ่งก็คือ เวลาที่ออกของ หลวงพ่อผาย เขมพตฺโต น่าจะมีอายุเพียง ๔๖ ปี พรรษา ๑๒ การยอมรับในวงการฯ ย่อมมีน้อยกว่าพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุและพรรษาสูง ๆ ที่ออกวัตถุมงคลในระยะใกล้เคียงกัน}

             ^{จุดเด่นของพระปิดตามหาอุตม์ยันต์ยุ่ง หลวงผาย เขมพตฺโต นั้น มิได้อยู่ที่บารมีของหลวงพ่อผาย เขมพตฺโต แต่อยู่ที่ศิลปะและเนื้อหามวลสารที่สร้างขึ้นจากชนวนพระเก่าจำนวน ๔๕ กิโลกรัม ผสมกับเงินยวง ๔๐ บาท ประกอบร่างเป็นพระปิดตาที่มีความงดงามตระการตา ๒๑ ปีที่ผ่านมา เนื้อสัมฤทธิ์ออกแดงจำปาได้กลับดำสนิทตามแบบอย่างของเนื้อสัมฤทธิ์ชั้นดี จุดนี้เองที่ทำให้พระปิดตามหาอุตม์ยันต์ยุ่งพิมพ์นี้มีเสน่ห์ควรค่าแก่การเก็บสะสม และเป็นหนึ่งในทำเนียบพระปิดตามหาอุตม์ยันต์ยุ่งที่ไม่ควรมองข้าม}

๑ บทความเก่าจากนิตยสารพระเครื่องร่มโพธิ์ ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๖ (๘๐) ธันวาคม ๒๕๓๙ หน้า ๖ - ๙