แชร์

พระปิดตาหลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

อัพเดทล่าสุด: 13 ต.ค. 2025
11 ผู้เข้าชม

พระปิดตาหลวงปู่เม้า พลวิริโย วัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

โดย... ชายนำ ภาววิมล ...

             เมื่อเอ่ยถึงพระเครื่องหรือวัตถุมงคลที่สร้างขึ้นในนามของ"หลวงปู่เม้า พลวิริโย" นักนิยมพระเครื่องประเภทจิ๋วแต่แจ๋ว ส่วนใหญ่คงจะทราบดีว่า พระปรกใบมะขามหลวงปู่เม้า พลวิริโย เป็นพระปรกใบมะขามที่มีพลานุภาพโดดเด่นเพียงใด แม้ว่าจะมีสนนราคาเช่าหาอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับพระปรกใบมะขามที่สร้างขึ้นในยุคสมัยเดียวกัน อาทิ พระปรกใบมะขามองค์จ้อยหลวงปู่ทิม อิสฺริโก วัดละหารไร่, พระปรกใบมะขามหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ วัดบ้านไร่, พระปรกใบมะขามหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์.  แต่อาจกล่าวได้ว่าพระปรกใบมะขามหลวงปู่เม้า พลวิริโย เป็นหนึ่งเดียวที่นักนิยมพระเครื่องหลาย ๆ ท่านยอมรับว่าสามารถนำมาห้อยคอแทนพระปรกใบมะขามที่มีสนนราคาสูง ๆ ได้ เหตุผลพื้น ๆ ที่นักนิยมพระเครื่องในยุคสมัยนั้นทราบกันดี ก็คือ ผู้สร้างได้นำไปขอความเมตตาจากหลวงปู่ทิม อิสฺริโก ให้ช่วยอธิษฐานจิตแผ่เมตตาเจริญภาวนาให้เป็นกรณีพิเศษ อานิสงส์จากการอธิษฐานจิตฯ ของหลวงปู่ทิม อิสฺริโก เป็นเงื่อนไขประการหนึ่งที่ทำให้พระปรกใบมะขามหลวงปู่เม้า พลวิริโย พลอยได้รับความนิยมขึ้นมาด้วยกระแสความนิยมที่ผูกยึดติดอยู่กับบารมีของหลวงปู่ทิม อิสฺริโก มีส่วนทำให้นักนิยมพระเครื่องส่วนหนึ่งเกิดวิจิกิจฉาหรือตั้งคำถามว่า "หลวงปู่เม้า พลวิริโย เก่งจริงหรือไม่" ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะบารมีของพระเกจิ อาจารย์รูปใดกันแน่

              ข้อสงสัยที่หยิบยกมาเล่าสู่กันฟังนี้ มีผลต่อความนิยมในพระเครื่องและวัตถุมงคลที่หลวงปู่เม้า พลวิริโย อธิษฐานจิตแผ่เมตตาเจริญภาวนาหรือไม่ คำตอบของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไปตามความเชื่อและประสบ การณ์ของแต่ละบุคคล ไม่มีอะไรที่เป็นข้อสรุปตายตัวตามหลักเกณฑ์ของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ แต่ถ้าจะมองกันด้วยความเป็นธรรม เปิดใจให้กว้าง พิจารณากันด้วยเหตุและผลตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาแล้ว พระบรมศาสดาไม่เคยสอนให้ยึดมั่นถือมั่นในอิทธิวิถีเลย  ปาฏิหาริย์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นล้วนเป็นไปตามกรรมที่สั่งสมมาแต่อดีตกาลและศรัทธาที่มีต่อพระไตรรัตนาธิคุณ แม้แต่พระนักปฏิบัติที่พุทธศาสนิกชนส่วนหนึ่งเชื่อว่าท่านสำเร็จฌานอภิญญา ก็ยังยอมรับว่าในที่สุดแล้วฌานอภิญญาที่เป็นบ่อเกิดแห่งอิทธิวิถีที่หลาย ๆ คนเสาะแสวงหาอยู่นั้น ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรม ในโลกแห่งความเป็นจริงในยุคโลกาภิวัตน์ บุญบารมีที่เกิดจากการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ การบำเพ็ญตนเป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมด้วยความบริสุทธิ์ใจ เป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าเหนือสิ่งอื่นใด

             หลวงปู่วิเวียร ฐิตปุญโญ วัดวงแข มักปรารภกับลูกศิษย์ใกล้ชิดเสมอ ๆ ว่า "พระเก่งนั้นหาง่าย แต่พระดีซิหายาก" ถ้าเราเพ่งพิจารณากันให้ลึกซึ้ง ความเก่งกล้าสามารถทางพระเวทย์วิทยาคมเป็นอนิจจัง มีมีความจีรังยั่งยืน เกิดขึ้นได้ก็เสื่อมได้ มีนักเขียนท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ชม ธมฺมธีโร วัดนางในธัมมิการาม ได้อธิบายถึงความแตกต่างระหว่างความเก่งกล้าของพระเกจิอาจารย์ทั้งหลายที่มีพื้นฐานมาจากการสำเร็จธาตุ กับพระสุปฏิปันโนผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แต่ไม่สำเร็จธาตุว่าทำไมแค่อธิษฐานจิตเฉย ๆ ถึงได้มีพลานุภาพและประสบการณ์มากมายนัก คำตอบที่ได้ก็คือ "การประจุธาตุในวัตถุมงคลต่าง ๆ เปรียบเสมือนหนึ่งการทำให้วัตถุมงคลมีชีวิต คุณธรรมของพระสุปฏิปันโนผู้อธิษฐานจิตฯ เป็นเสมือนการทำให้วัตถุมงคลมีจิตใจ" จริงเท็จประการใด สุดแท้แต่ผู้อ่านจะพิจารณากันเองก็แล้วกัน  นอกจากคำอธิบายของหลวงปู่ชม ธมฺมธีโร แล้ว พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ได้กล่าวถึงหลักการสำคัญในการอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ว่าเบื้องต้นจะต้องได้ธรรมก่อน จากนั้นถึงจะไปเรียนรู้เรื่องฌานอภิญญา เมื่อได้ทั้งสองประการนี้แล้ว ถึงจะเรียนรู้พระเวทย์วิทยาคมต่าง ๆ เพราะหากว่าไม่มีคุณธรรมควบคุมแล้ว ก็จะกลายเป็นไสยดำไป เมื่อประมวลข้อมูลต่าง ๆ เข้าด้วยกันแล้ว คงเพียงพอที่จะสรุปเชื่อมโยงให้นักนิยมพระเครื่องรุ่นใหม่ ๆ เห็นว่าคุณธรรมของพระสุปฏิปันโนเป็นมงคลสูงสุด คำอธิษฐานที่เปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรมของพระที่มีศีลบริสุทธิ์ มีพลังเหนือสิ่งอื่นใดเพราะคุณธรรมคือ สื่อที่จะโน้มนำให้พระตรัยรัตนาธิคุณและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมาประสิทธิ์ประสาทพรให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาได้รับแต่อานิสงค์ที่ดีงาม

              อารัมภบทที่กล่าวมาอย่างยืดยาวนี้ คงจะเป็นส่วนหนึ่งที่ท่านผู้อ่านได้พิจารณานำไปใช้เป็นแนวคิดในการตัดสินใจว่าจะเลือกเล่นหาพระเครื่องประเภทใด เวลาจะนำพระเครื่ององค์ใดมาเลี่ยมขึ้นคอ ก็ไม่ต้องเที่ยวถามใครต่อใครให้มาช่วยตัดสินใจแทนเรา ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ใช่เรา และเราก็ไม่ใช่เขา ถ้าเล่นพระด้วยสติและปัญญากันเป็นส่วนใหญ่ วงการพระเครื่องก็จะดีกว่าที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ พระดี ๆ อีกจำนวนมาก ก็คงไม่ถูกมองข้ามไปโดยไม่รู้คุณค่าที่แท้จริง

             หลวงปู่เม้า พลวิริโย อดีตเจ้าอาวาสวัดสี่เหลี่ยม ต.ตาเป๊ก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เป็นพระสุปฏิปันโนทางภาคอีสานอีกรูปหนึ่งที่มีปฏิปทา วัตรปฏิบัติงดงาม หาที่ติมิได้ บรรพชามาตั้งแต่อายุ ๑๓ ปี และครองสมณเพศเรื่อยมาจนกระทั่งมรณภาพไปเมื่ออายุได้ ๑๐๒ ปี ตลอดระยะเวลาเกือบ ๙๐ ปีในเพศบรรพชิต ท่านได้สร้างสรรค์สาธารณประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ โรงเรียน ฯลฯ ดังนั้น หลวงปู่เม้า พลวิริโย จึงเป็นพระสุปฏิปันโนที่น่าเคารพนับถืออีกรูปหนึ่ง แม้กระทั่ง จอมพล ป.พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ยิ่งยง ยังไปกราบนมัสการและฝากตัวเป็นลูกศิษย์ นอกจากนี้ ฯพณฯ สัญญา ธรรมศักดิ์ ก็เคยแวะกราบนมัสการท่านครั้งหนึ่งในราวปี ๒๕๑๗ - ๒๕๑๘.

             หลวงปู่เม้า พลวิริโย เดิมชื่อเม้า ศรีราษฎร์ เกิดเมื่อวันขึ้น ๑๒ ค่ำ ปี ๒๔๑๗ บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ ๑๓ ปี ต่อมาเมื่ออายุครบ ๒๐ ปี จึงได้อุปสมบทที่อุโบสถวัดใหม่ไรทอง โดยมีพระอาจารย์เพียร เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้ศึกษาด้านการเจริญวิปัสสนากรรมฐานจากพระอาจารย์เพียร เป็นเวลานานถึง ๕ ปี เมื่อได้เรียนรู้สรรพวิชาการต่าง ๆ จากพระอุปัชฌาย์จนครบถ้วน จึงได้ออกธุดงค์ตามแบบอย่างของพระนักปฏิบัติในอดีต การธุดงค์ครั้งนี้ หลวงปู่เม้า พลวิริโย มีโอกาสได้พบและฝากตัวเป็นศิษย์ของพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล ที่วัดเลียบ จ.อุบลราชธานี  เล่ากันว่าหลวงปู่เม้า พลวิริโย เป็นพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญในการเจริญวิปัสสนากรรมฐานและพระเวทย์วิทยาคม ใครได้อาบน้ำมนต์จากท่านแล้ว ส่วนใหญ่จะทำมาค้าขึ้น มีโชคลาภปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ หากใครได้ดื่มน้ำมนต์ของท่านติดต่อกันเจ็ดเสาร์ จะไม่มีการตายโหง ในด้านวัตถุมงคล ตะกรุดโทนที่ท่านทำขึ้น มีอิทธิปาฏิหาริย์เลื่องลือมากในสงครามอินโดจีน ทหารไทยเราที่ได้รับตะกรุดโทนจากท่านไป ต่างก็ปลอดภัย แคล้วคลาดจากภยันตรายนานัปการอย่างไม่น่าเชื่อ

             การสร้างพระเครื่องในรูปและนามของหลวงปู่เม้า พลวิริโย เท่าที่ปรากฏในส่วนกลาง มีจำนวนเพียงไม่ กี่พิมพ์ แต่ที่รู้มักคุ้นกันมากที่สุด ก็คือ พระปรกใบมะขามรุ่นแรกและรุ่นเดียวของท่าน ที่นักนิยมพระปรกใบมะขามยุคสมัยนี้กล่าวขานกันว่า ถ้าไม่สามารถหาพระปรกใบมะขามองค์จ้อยของหลวงปู่ทิม อิสฺริโก มาห้อยคอ ก็สามารถนำพระปรกใบมะขามหลวงปู่เม้า พลวิริโย มาห้อยคอแทนได้ สนนราคาเล่นหาก็ย่อมเยากว่ากันมาก แต่พลานุภาพไม่แตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย นอกจากนั้น ยังมีพระสมเด็จ ๑ รุ่น, เหรียญรูปเหมือนท่าน ๓ รุ่น, พระปิดตา ๒ รุ่น, พระสังกัจจายน์ปั๊ม ๑ รุ่น, แล้วก็หนุมานเนื้อโลหะผสม ซึ่งเป็นเครื่องรางที่บรรดาศิษย์สายตรงนิยมเล่นหากันอย่างกว้างขวาง เช่าหาสูงกว่าวัตถุมงคลที่ท่านสร้างไว้เกือบทุกรุ่น

             พระปิดตาหลวงปู่เม้า พลวิริโย ทองแดงปั๊มหลังยันต์ เป็นพระปิดตาที่สร้างขึ้นพร้อมกับพระปรกใบมะขามและพระสังกัจจายน์ปั๊มเนื้อทองแดง ในปี ๒๕๑๘ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนบูรณะวัดโสกน้ำขาว ต.ห้วยแก้ง อ.กุดชุม จ.ยโสธร ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารมาก

               ลักษณะ เป็นพระปิดตาปั๊มครึ่งซีกแบบนั่งสมาธิเพชร ตัดขอบชิด แลคล้ายพระปิดตาหลังรูปเหมือนหลวงปู่ทิม อิสฺริโก วัดละหารไร่ แต่มีขนาดใหญ่กว่าเกือบเท่าตัว ด้านหลังเป็นยันต์ประจำตัวของหลวงปู่เม้า พลวิริโย รายล้อมด้วยอักขระ ๒ ชุด ได้แก่ "อุดทัง" และ "นะมะพะทะ" ใต้ยันต์เป็นชื่อของท่านคือ "หลวงปู่เม้า"
               ขนาด ฐานกว้าง ๑.๓ ซ.ม. สูง ๑.๖ ซ.ม.  และหนาประมาณ ๐.๒ ซ.ม.
               จำนวนการสร้าง ประมาณ ๕,๐๐๐ องค์
               เนื้อหา เท่าที่พบเห็น มีเนื้อทองแดงเพียงเนื้อเดียว แต่ศูนย์พระเครื่องบางแห่งนำไปกาไหล่เงิน กาไหล่ทอง แล้วเลี่ยมกรอบทาองไว้จำหน่ายให้กับลูกค้าของตน
               พิธีกรรม สันนิษฐานว่าน่าจะนำไปให้พระเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญพระเวทย์วิทยาคมอธิษฐานจิตแผ่เมตตาเจริญภาวนาพร้อมกับพระปรกใบมะขาม รวม ๗ ครั้ง  ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้คือ
                  ๑. หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เมื่อครั้งที่จำพรรษาอยู่ที่วัดสระแก้ว อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๑๗ หลังจากอธิษฐานจิตฯ แล้ว หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ได้กล่าวว่า เอาไปเถอะ ผู้ใดได้บูชาไว้ใช้ จะมีแต่สิริมงคล
                  ๒. หลวงพ่อเป็น โฆสกาโม วัดเจริญนิมิต อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๑๗ หลวงพ่อเป็น โฆสกาโม รูปนี้เป็นพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญในการอธิษฐานจิตแผ่เมตตาฯ พระเครื่องด้านอยู่คงต่ออาวุธเป็นอย่างยิ่ง
                  ๓. หลวงพ่อทิพย์ ธมฺมนิยโก วัดโพธิ์ทอง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๑๗
                  ๔. หลวงปู่ทิม อิสฺริโก วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๑๗
                  ๕. พระครูวิบูลย์ สุมโน วัดลำต้อยติ่ง เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๑๗ โดยเน้นทางด้านการป้องกันงูและกันเขี้ยวสัตว์ต่าง ๆ
                  ๖. นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดศรีจำปาชนบท อ.พังโคน จ.สกลนคร ระหว่างวันที่ ๒๗ - ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๑๗ โดยมีพระเกจิอาจารย์สายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต จำนวน ๔๖ รูปเข้าร่วมพิธีฯ อาทิ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร, พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม, พระอาจารย์จวน กุลเชษโฐ วัดภูทอก, พระอาจารย์วัน อุตฺตโม วัดอภัยดำรงธรรม
                  ๗. หลวงปู่เม้า พลวิริโย เมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๑๗
              ที่สันนิษฐานเช่นนี้เพราะเป็นพระชุดเล็กด้วยกันทั้งสามพิมพ์ จึงไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไรที่จะนำไปเข้าพิธีฯ พร้อมกัน แต่ก็มีบางกระแสโต้แย้งว่าพระปิดตาและพระสังกัจจายน์ที่สร้างขึ้นในวาระเดียวกันนี้ ไม่ได้นำไปให้พระเกจิอาจารย์ต่าง ๆ อธิษฐานจิตแผ่เมตตาเจริญภาวนาพร้อมกับพระปรกใบมะขามทั้ง ๗ ครั้ง แต่ได้นำไปให้หลวงปู่เม้า พลวิริโย อธิษฐานจิตฯ เดี่ยวในวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๑๗ เพียงครั้งเดียว ในกรณีนี้มีเหตุผลประการเดียวคือ พระปิดตาและพระสังกัจจายน์ปั๊มเสร็จทีหลัง จึงไม่ทันเวลาที่จะนำไปตระเวนอธิษฐานจิตแผ่เมตตาเจริญภาวนาพร้อมกับพระปรกใบมะขาม
            พลานุภาพ พิจารณาจากองค์ประกอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการวางรูปยันต์และพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมอธิษฐานจิตแผ่เมตตาฯ พระปิดตารุ่นนี้ น่าจะมีพลานุภาพเน้นหนักไปทางแคล้วคลาดนิรันตราย
            ค่านิยม เมื่อพิจารณาจากลักษณะพิมพ์ทรงแล้ว มีข้อน่าสังเกตคือ นอกจากพระปิดตาปั๊มหลังรูปเหมือนหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ แล้ว ยังไม่มีพระปิดตาปั๊มในลักษณะเดียวกันที่ได้รับความนิยมและเล่นหากันอย่างกว้างขวาง หลักการทางสถิติอาจนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการทำนายได้อย่างหยาบ ๆ ว่าโอกาสที่พระปิดตาหลวงปู่เม้า พลวิริโย จะได้รับความนิยมและเล่นหากันเป็นสากล คงต้องอาศัยปัจจัยเกื้อหนุนหลาย ๆ ประการและต้องใช้เวลานานพอสมควรถึงจะก้าวเข้าสู่การเป็นพระหลักที่เล่นหากันเป็นสากล แต่ถ้าเอาแค่ชอบ พระปิดตาชุดนี้ ก็เป็นทางเลือกสำหรับนักนิยมพระปิดตารุ่นใหม่ ๆ ที่ต้องการหาพระปิดตาประเภทของดีราคาดุจปุยนุ่นมาประดับไว้ในทำเนียบพระปิดตาของตน

             หลวงปู่ทิม อิสริโก จักอธิษฐานจิตแผ่เมตตาฯ พระปิดตาชุดนี้หรือไม่ มิใช่ประเด็นสำคัญที่เป็นตัวกำหนดค่านิยมในการเล่นหา เพราะพระปิดตาพิมพ์นี้สร้างขึ้นในนามของหลวงปู่เม้า พลวิริโย ค่านิยมจึงอยู่ที่ว่าหลวงปู่เม้า พลวิริโย ได้ทำพิธีฯ ทุกอย่างครบถ้วนแล้ว ก็เป็นอันใช้ได้ การนำเอาชื่อเสียงกิตติคุณของหลวงปู่ทิม อิสฺริโก มาเป็นจุดขายเพื่อให้มีสนนราคาเล่นหาสูงขึ้น เป็นเรื่องที่เหมะสมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละบุคคล  แต่ที่แน่ ๆ หลวงปู่เม้า พลวิริโย วัดสี่เหลี่ยม มีพร้อมทั้งคุณธรรมที่ควรค่าแก่การเคารพนับถือ และมีดีอยู่ในตัวที่ใครจะมองข้ามมิได้

 

ปรับจากบทความเก่าเรื่อง พระปิดตาหลวงปู่เม้า พลวิริโย วัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ในนิตยสารพระเกจิ ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๘๓ มีนาคม ๒๕๔๐ หน้า ๙ ๑๐
ปัจจุบัน ต.ตาเป๊ก อ.นางรอง เปลี่ยนเป็น ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ


บทความที่เกี่ยวข้อง
พระปิดตามหาลาภองค์น้อย พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม วัดถ้ำเขาเงิน
บทความว่าด้วยประวัติความเป็นมาและข้อมูลเกี่ยวกับพระปิดตามหาลาภองค์น้อย พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม จากนิตยสารพระเครื่องร่มโพธิ์ ฉบับที่ ๘๙ กันยายน ๒๕๔๐
18 ก.พ. 2025
ปกบทความพระปิดตาปางซ่อนหาหลวงพ่อเพชร จนฺทวํโส
พระปิดตาปางซ่อนหาเป็นพระปิดตารุ่นที่ ๔ ของหลวงพ่อเพชร จนฺทวํโส ที่จัดสร้างในปี ๒๕๔๑ เผยแพร่ข้อมูลในนิตยสารพระเครื่องร่มโพธิ์ ฉบับที่ ๙๙ ตุลาคม ๒๕๔๑
8 ธ.ค. 2024
หน้าปกพระปรกใบมะขามหลวงพ่อเพชร จนฺทวํโส หลังยันต์จม
บทความเรื่อง พระปรกใบมะขามหลวงพ่อเพชร จนฺทวํโส วัดบ้านกรับ พิมพ์ยันต์จม จากนิตยสารพระเครื่องร่มโพธิ์ ปีที่ ๙ ฉบับที่ ๕ (๑๐๘) กุมภาพันธ์ - มีนาคม ๒๕๔๓
26 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy